บุกถึงเตียงคลินิก จับ 8 หมอปลอม หลอกเสริมความงาม อึ้ง! บางรายเรียนจบแค่ ป.6

ตำรวจสอบสวนกลางร่วม สบส. – อย.เปิดยุทธการ “หยุดเถื่อน” ปราบ “หมอปลอม” ตรวจค้น 8 จุด จับ 8 หมอปลอม พบ 1 ในนั้นจบเพียงแค่ ป.6

(6 ธ.ค.65) ศูนย์บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

และก็นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภญอรัญญา เทพพิทักษ์ ผอ.ศูนย์จัดการ เรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ร่วมกันแถลงผลงานจับกุมกวาดล้างหมอเถื่อนและก็คลีนิกเสริมความงามเถื่อน เบื้องตันมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 8 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง 836 รายการ

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก อย.และก็ สบส. ให้สืบสวนกรณีมีบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์หลอกเสริมความงามให้ประชาชนในหลายพื้นที่ ระหว่างวันที่ 23-29 เดือนพฤศจิกายน 2565 ก็เลยทำการไต่สวนและก็ร่วมกับ อย., สบส. และก็ สสจ. ประจำแต่ละจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่กรุงเทพมหานคร,จังหวัดชลบุรี, จ.สมุทรสงคราม และก็ จ.ปทุมธานี รวมทั้งหมด 8 จุด ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ โดยเป็นคลินิกที่ไม่ได้รับอนุญาต 4 แห่ง ตรวจยึดของกลาง 836 รายการ เป็นยาและก็เวชภัณฑ์ 109 รายการ, เครื่องมือทางการแพทย์และก็อุปกรณ์สำหรับในการตรวจคนตรวจรักษา 57 รายการ, เวชระเบียน 670 รายการ

คลินิกผิดกฎหมาย

ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา(หมอปลอม) ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต 8 ราย

โดยผู้ต้องหา 8 รายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่ว่าอยู่ ระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ 2 ราย, ปริญญาตรี 1 ราย, มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3 ราย ประกาศณียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 1 ราย และก็ประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ราย

1.น.ส.ธนัศร (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไมได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา โดยเรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และก็อาศัยประสบการณ์ ที่เคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลมาก่อน ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 1 ปี

  1. น.ส.ศรีษุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี (ทำการรักษานอกเวลาที่ขออนุญาต) ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” โดยเรียนจบระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และก็ทำมาแล้วประมาณ 6 ปี
  2. น.ส.ณปาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไมใด้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา และก็ขายเครื่องมือทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” เรียนจบระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี

4.นายจิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี

นางสาวศศิพัชร์ (สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ” เรียนจบระดับปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี

  1. นายกรกรต (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” เรียนจบระดับปริญญาตรี โดยเคยมีประสบการณ์การทำงานในคลินิกมาก่อน จากนั้นมาเปิดคลินิกและก็ตรวจรักษาเอง
  2. น.ส.บุญพา(สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยศึกษาวิธีการฉีดเสริมความงามด้วยตนเองจากช่องทาง YouTube แล้วหลังจากนั้นสั่งยาต่างๆ จากช่องทางออนไลน์และก็ทดลองฉีดหน้าตนเองก่อนในช่วงแรก
  3. น.ส.(สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และก็ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีประสบการณ์เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์มาก่อน และก็ทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน

สถานพยาบาลเถื่อน

นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ บอกว่า

การฉีดสารเสริมความงาม ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ นั้น ถือเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม จำเป็นที่จะต้องให้บริการ โดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ และก็กระทำในสถานพยาบาล ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการเดินสาย ให้บริการนอกสถานพยาบาลแต่อย่างใด ถ้าเกิดพบเห็นการให้บริการฉีดเสริมความงามนอกสถานที่ ขอให้ตั้งข้อหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ซึ่งการฉีดสารเสริมความงาม ด้วยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์นั้น ย่อมมีผลกระทบต่อสถาพทางร่างกายซึ่งอาจมีความรุนแรงถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิต จากการที่สารเสริมความงามรั่วไหล เข้าไปอุดตันในเส้นเลือด หรือมีการติดเชื้อ

กรม สบส.ก็เลยขอเน้นย้ำให้เลือกรับบริการที่เกี่ยวข้องกับด้านความงามกับสถานพยาบาล ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยก่อนรับบริการก็ควรจะตรวจสอบหลักฐาน 5 ประการ ซึ่งสถานพยาบาลจำเป็นที่จะต้องแสดง ได้แก่ 1. ป้ายชื่อคลินิกต้องแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก 2. มีการแสดงใบอนุญาตเปิดกิจการคลินิก เลขใบอนุญาตต้องตรงกับเลขที่ที่ติดที่ป้ายชื่อคลินิก 3. มีการแสดงใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล 4. มีการแสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมคลินิกที่เป็นปีปัจจุบัน และ 5. มีการแสดงหลักฐานของแพทย์ที่ให้บริการในคลินิก โดยมี ชื่อ-นามสกุล และภาพถ่ายติดที่หน้าห้องตรวจ

โดยสามารถตรวจสอบชื่อคลินิกได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและก็การประกอบโรคศิลปะ (www.mrd-hss.moph.go.th) และก็ตรวจสอบชื่อแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา (w.w.tmc.or.th) ถ้าเกิดไม่พบ หรือสถานพยาบาลแสดงหลักฐานไม่ครบถ้วน ไม่ควรเข้ารับบริการ และก็ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วนกรม สบส. 1426 หรือทาง เบอร์โทร 02 193 7000 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.อนันนต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมาให้พี่น้องประชาชนว่า ตรวจสอบข้อมูลคลินิก แพทย์และก็ขั้นตอนการดูแลและรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการที่เกี่ยวข้องกับด้านความงามเนื่องด้วยการเสริมความงาม เป็นขั้นตอนและก็วิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและก็เกิดผลกระทบกับร่างกายโดยตรง และก็แจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวในทันที เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค